ทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันนวมินทรมหาราช
ทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันนวมินทรมหาราช
วันที่ 26 สิงหาคม 2566 พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลบุคคลดีเด่นชุมนุมนายเรืออากาศ และบุคคลที่สมควรได้รับกระบี่นักเรียนนายเรืออากาศ ประจำปี 2566 ซึ่งพลอากาศเอก เสนาะ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคลดีเด่นชุมนุมนายเรืออากาศ ประจำปี 2566 โดยพลอากาศเอก คงศักดิ์ วันทนา อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ณ ห้องประชุมเฉลิมอากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
ทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันนวมินทรมหาราช
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จัดงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง “เกษตรวิถีใหม่” ระหว่างวันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน 2564 เอาใจคนรัก “ไม้ด่าง” ถ่ายทอดองค์ความรู้ไม้กระแสสร้างรายได้ ผ่านนิทรรศการ "ปลูกง่าย กินได้ สร้างรายได้" พบกับหลากหลายไอเดียการปลูกไม้กระแสรูปแบบใหม่ ใช้สอยพื้นที่สุดประหยัด จัดเต็มกับการอบรมวิชาของแผ่นดิน และการอบรมเชิงปฏิบัติการ กว่า 10 หลักสูตร ชม ช้อป จุใจกับตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ของกินของใช้ส่งตรงจากสวนท้องถิ่น ต้นไม้ พันธุ์ไม้นานาชนิด ราคามิตรภาพ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี หรือรับชมภาพบรรยากาศงาน ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯพลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ นำไอเดียจากไม้ด่าง และไม้กระแสต่างๆ ที่เป็นกิจกรรมสุดฮิตของหลายคนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 มาถ่ายทอดภายในงาน ที่นอกจากปลูกไว้ตกแต่งบ้านและสวนเพื่อให้ความร่มรื่นแล้ว ยังสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับใครอีกหลายคน แต่การจะปลูกต้นไม้ให้รอดไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ ต้องรู้จักต้นไม้ รู้จักดิน รู้จักน้ำ รู้จักแสงแดด รู้จักปุ๋ยที่จะใช้บำรุง นี่คือองค์ประกอบสำคัญของการทำการเกษตร ดังนั้นพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จึงขอรวบรวมองค์ความรู้ด้านการเกษตรมาถ่ายทอดภายในงาน ให้ทุกคนทุกวัยสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ จุดประกายความคิดในการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวันได้”โดยจัดงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง “เกษตรวิถีใหม่” ระหว่างวันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน 2564 ภายในงานจัดแสดงนิทรรศการไม้กระแสสร้างรายได้ "ปลูกง่าย กินได้ สร้างรายได้" นำเสนอการปลูกไม้ ในกระแส ปลูก 1 อย่าง ได้ ประโยชน์ 4 อย่าง กินเป็นอาหาร ดื่มเป็นยาสมุนไพร ใช้ตกแต่งสวนสบายตา ขายสร้างรายได้เกิดอาชีพ ช่วยโลก ช่วยเรา ฟอกอากาศเพิ่มออกซิเจน รวบรวม และจัดแสดงพืชตระกูลบอน สารพัดว่าน กระบองเพชรกินได้ ไม้ด่าง เช่น เล็บครุฑด่าง อ่อมแซ่บด่าง พืชเกษตรในกระแส เช่น กระท่อม เผือก และไอเดียการปลูกไม้กระแสโดยใช้พื้นที่อันน้อยนิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การปลูกไม้กระแส กลับหัว การปลูกไม้กระแสแบบคอนโด พร้อมแจกองค์ความรู้ เคล็ดลับการดูแลต้นไม้แบบไม่มีกั๊ก มาเที่ยวงานทั้งที ต้นไม้ดีๆก็มีแจก กับ กิจกรรม“ตอนกิ่งไม้กระแส” แลกซื้อต้นโพธิ์ทะเล 7 สี ในราคาเพียงต้นละ 20 บาท หรือร่วมสนุกกับกิจกรรมภายในงานรับต้นโพธิ์ทะเล 7 สี ฟรีทันที (จำนวนจำกัด) เก็บเกี่ยวองค์ความรู้ด้านการเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงในรูปแบบของการอบรมวิชาของแผ่นดิน และการอบรมเชิงปฏิบัติการ จัดหนักจัดเต็มตลอด 2 วัน ในรูปแบบ Onsite จำกัดผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 20 คนต่อวิชา เพื่อลดความแออัด และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และสามารถรับชมผ่านรูปแบบ Online ได้ทาง Youtube พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯชม ช้อป จุใจ เลือกซื้อสินค้าเกษตรปลอดภัย ผลิตผลเกษตรอินทรีย์มีคุณภาพ ทั้งของกิน ของใช้ ผลิตภัณฑ์ แปรรูป ต้นไม้ โดยเกษตรกรผู้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต นำมาจัดจำหน่ายในราคามิตรภาพการจัดงานในครั้งนี้ยังคงคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด โดยขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมชมงาน ตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้งก่อนเข้างาน เว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หรือสามารถรับชมบรรยากาศภายในงานผ่านรูปแบบออนไลน์ได้ทาง Facebook พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดทั้ง 2 วันสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171, คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ facebook / Instagram /Line ID : @wisdomkingmuseum และ Youtube : พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และจังหวัดสตูล ซึ่งส่งผลให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ระดับจังหวัด เป็นศูนย์ฯ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ มีการประเมินสถานการณ์น้ำในจังหวัด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการรับมือสถานการณ์อุทกภัย และสำรวจผลกระทบด้านการเกษตรเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ได้แก่ กรมชลประทาน สนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่ประสบอุทกภัย ดังนี้ เครื่องสูบน้ำ 96 เครื่อง เครื่องผักดันน้ำ 7 เครื่อง รถสูบน้ำเคลื่อนที่ 3 คัน รถขุด 63 คัน เรือขุด 13 ลำ เรือกำจัดวัชพืช 2 ลำ รถแทรกเตอร์ 36 คัน รถบรรทุก 70 คัน เครื่องจักรสนับสนุน 145 หน่วย กรมประมง โดยกองตรวจการประมง ระหว่างวันที่ 27 - 29 พ.ย. 2567 ได้ดำเนินการช่วยเหลือ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา การให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ จัดชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่ 42 ชุด รถยนต์ 11 คัน เรือตรวจการประมง 7 ลำ โดยช่วยนำส่งเสบียงอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมทั้งอพยพประชาชน ผู้ป่วย เด็กและคนชรา ในพื้นที่ประสบภัยสู่พื้นที่ปลอดภัย และ กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการช่วยเหลือในพื้นที่ อพยพสัตว์ 200,704 ตัว รักษาสัตว์ 140 ตัว ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 79 ซอง ถุงยังชีพสัตว์ 73 ถุง หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 66,500 กิโลกรัม เป็นต้น ขณะเดียวกัน ได้จัดตั้งจุดโรงครัวเพื่อผลิตอาหารแจกจ่ายแก่ผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้ 1. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา อาคารส่วนขยาย ชั้น 1 ศาลากลาง จังหวัดยะลา โทร 0-7322-1711 2. สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส โทรศัพท์ : 0-7351-1378 3. การยางแห่งประเทศไทย จังหวัดสตูล อ.เมือง จ.สตูล โทรศัพท์ : 0-7471-1378 4. สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองพัทลุง อ.เมือง จ.พัทลุง โทรศัพท์ : 0-7461-3193 5. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทรศัพท์ : 0-7535-6254, 0-7535-6454 6. สำนักงานเกษตรอำเภอปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โทรศัพท์ : 0-7346-6062 7. สถานีพัฒนาที่ดิน อ.จะนะ จ.สงขลา โทรศัพท์ : 0-7489-4300 นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เปิด “ศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2567” เพื่อเป็นศูนย์รับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋องพร้อมทาน เครื่องปรุงรส หรือน้ำมันพืช ยาสามัญประจำบ้านและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทำความสะอาด ถุงบรรจุของยังชีพ ฯลฯ เพื่อดำเนินการจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยผู้ที่สนใจสามารถบริจาคสิ่งของดังกล่าวได้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก ห้องประชุม 115 อาคาร 1 ชั้น 1 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ในเวลาทำการ เป็นต้นไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ปี 2567 โดยสามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนวิสุทธิกษัตริย์ ประเภทบัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภาคใต้” เลขที่บัญชี 006-0-26077-7
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดภาพความสนุก ความน่ารัก ของเด็กๆที่มาร่วมหลักสูตรทำแยมผลไม้แฟนซี พร้อมด้วยหลักสูตรประดิษฐ์ของเล่นจากขวดพลาสติกและไม้ไอศกรีม ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดขึ้นในวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ผจญภัยที่พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร ชมสัตว์ป่า น้อยใหญ่นานาชนิด และปิดท้ายกับภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติอีกด้วย คุณพ่อ คุณแม่ ท่านใดที่กำลังมองหากิจกรรมสนุกๆ เสริมทักษะชีวิตให้เด็กๆ ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ซึ่งจัดขึ้นทุกสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 14.00 น. ติดตามกิจกรรมดีๆได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/th/page/happy-travel ติดต่อสอบถามโทร 0-2529-2212-13 หรือ 087-359-7171 , 094-649-2333
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ดำเนินการจัดกิจกรรมค่ายการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้กับครู และนักเรียนโรงเรียนในเขตพื้นที่เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.-พกฉ.) เพื่อสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของพันธุกรรมพืชท้องถิ่นให้กับเยาวชนในพื้นที่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 27 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน “เครือข่ายอินแปง” จ.สกลนครสำหรับกิจกรรมค่ายการเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (อพ.สธ.-พกฉ.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมพืช พันธุกรรมสัตว์ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ให้เกิดความตระหนัก เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากรทั้งพืชและสัตว์ ซึ่งมีเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ในเรื่องราวของของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ผ่านแนวคิด "พาเรียนรู้ พาเฮ็ด พาทำพานำไปขาย" โดยแบ่งฐานการเรียนรู้ออกเป็น 4 กิจกรรม อาทิ กิจกรรมพันธุกรรมพื้นถิ่นลุ่มน้ำพระเพลิง กิจกรรมพันธุกรรมพืชหลังนาฟ้าเมืองเลย กิจกรรมหวายเงินล้านสวนบูมสมใจภูไทหนองสูง และกิจกรรมหมอ 2 ใบ สมุนไพรใกล้ตัว โดยกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังให้เยาวชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความรู้ควบคู่กับการอนุรักษ์ พร้อมตระหนักถึงคุณค่าประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากร และเกิดจิตสำนึกและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติโดยเริ่มจากพื้นที่ของตน ก่อประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
ส่งตรงความรู้ ความสนุก ถึงบ้านและห้องเรียน ด้วยหลักสูตรเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง online ผ่าน Application Zoomเรียนรู้แบบหมู่คณะ ผ่าน Application Zoom มี 2 หลักสูตร ให้เลือกสรร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หลักสูตรที่ 1 Online ตามรอยพ่อ หลักสูตรที่ 2 Online เกษตรลงมือทำพิเศษสุดๆ สำหรับโรงเรียน สถาบันการศึกษา หน่วยงาน ที่เคยเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ เท่านั้น!!สนใจสมัคร คลิกเลย!