คลังต้นไม้แห่งการเรียนรู้

17 กันยายน 2568
6

ข้าวสารเถา

ชื่อไทย ข้าวสารเถา
ชื่ออื่น ข้าวสารดอกเล็ก เคือคิก เมือยสาร ปลายสาน ผักข้าวสาร เครือข้าวสาร
ชื่อวิทยาศาสตร์

Raphistemma hooperianum (Blume) Decne.

ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE
ลักษณะวิสัย

เป็นพรรณไม้ล้มลุกหรือไม้เถาเลื้อยพัน ลำต้นเกลี้ยงและมีน้ำยางสีขาว

ลักษณะใบ

ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ รูปไข่แกมขอบขนาน หรือรูปหัวใจ ปลายใบแหลมเป็นหางยาว โคนใบเว้าทั้งสองข้าง ห้อยเป็นรูปติ่งหู ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2 - 10.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4 - 15 เซนติเมตร แผ่นใบบาง ด้านบนที่โคนเส้นกลางใบจะมีขนสั้น ๆ และออกเป็นกระจุก ส่วนก้านใบมีลักษณะเล็กและยาว โดยจะมีความยาวได้ประมาณ 2 - 7 เซนติเมตร

ลักษณะดอก

ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ แต่ละช่อจะมีดอกย่อยประมาณ 4 - 7 ดอก ก้านช่อดอกยาวประมาณ 0.25 - 5.5 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกยาวได้ประมาณ 1.25 - 3.5 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเล็กและมีกลิ่นหอม กลีบรองกลีบดอกเป็นรูปไข่ปลายมน ยาวได้ประมาณ 3 - 4 มิลลิเมตร ตรงโคนเชื่อมติดกัน ส่วนกลีบดอกนั้นมี 5 กลีบ กลีบเป็นสีขาว และต่อมาก็จะกลายเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีเหลืองนวล ส่วนโคนจะเชื่อมติดกันเป็นท่อยาวประมาณ 8 - 9 มิลลิเมตร ส่วนตรงปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ มีลักษณะยาวกว่าท่อดอกเล็กน้อย ที่ปลายกลีบมีสีแต้มสีม่วง เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 2.5 - 3 เซนติเมตร ส่วนเส้าเกสรนั้นจะเป็นสีขาว มีความยาวประมาณ 10 - 13 มิลลิเมตร ออกดอกในช่วงฤดูหนาว

ลักษณะเมล็ด

มีเมล็ดสีน้ำตาลและมีขนสีขาว

ลักษณะผล

ผลจะเป็นฝักรูปไข่แกมขอบขนานหรือเป็นรูปกระสวย ฝักมีขนาดยาวประมาณ 14 เซนติเมตร ฝักเป็นสีเขียว

สรรพคุณ

รากใช้ปรุงเป็นยารักษาตา โดยใช้รากตากแห้งแล้วนำไปบดเป็นยากินรักษาโรคตาต่าง ๆ เช่น แก้ตาแดง ตาอักเสบ ตาแฉะ ตามัว ตาฝ้าฟาง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันโรคต้อกระจกได้อีกด้วย
ประโยชน์ : ผล ดอก เถา และส่วนโคนของลำต้นใช้เป็นอาหารได้ โดยดอกจะใช้ทำแกงส้ม ส่วนเถาใช้ลอกเปลือกจิ้มกับน้ำพริก และโคนต้นที่หมกดินนำมาล้างแล้วต้มลอกเปลือก ใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริกหรือน้ำปลาร้าได้เช่นกัน

สถานที่ ฐานต้นไม้แห่งการเรียนรู้
Share this: